Tuesday 6 September 2011

Chicken farm bakers' project # 38 : Great Vegan Cake



มาแบบสายๆ และหายหน้ากันไปนานมากๆๆ จริงๆ ไม่อยากพลาดซักกะโจทย์นะคะ
แต่โอชินเจอมรสุมชีวิตอ่ะ เลยต้องพักยกการบ้านไปเลย...

ตอนนี้จะพยายามต่อไปค่าาา ^^

โจทย์จากโฮสต์เดือนนี้มีประโยชน์มากๆๆ เลยค่ะ ขอบคุณมากๆๆ นะคะ
เด็กเดี๋ยวนี้แพ้อะไรเยอะขึ้นเนอะ น่าสงสารอ่ะ คิดไปมาหลายสูตรอยู่ค่ะ
ที่ตั้งใจจะทำ แต่พอมีเวลาทำจริงๆ ของที่ซื้อมาก็มีอันเป็นไป
ก็ต้องหาใหม่ ตัดสินใจใหม่ เจอสูตรนี้จากเวบค่ะ...แย่ตรงจำไม่ได้ว่าเวบอะไร
แห่ะๆ เจอแล้วสแนปหน้าจออ่ะ -_-"

























 ดูๆ ก็ไม่มั่นใจหรอกค่ะ ว่าจะออกมาเป็นไง แต่ก็ไม่มีไรจะเสียเนอะ
โพสต์ก็ป่านนี้ ลองดูก็ได้ จากสูตรอ่ะ เค้าเขียนนมถั่วเหลือง 1/4 ถ้วย
แต่ตอนผสมอ่ะ มันหนืดมาก ดูไม่น่ารอด บีมก็เลยเพิ่มนมถั่วเหลืองเป็น 1/2 ถ้วยนะคะ
แล้วก็ลดน้ำตาลไป  1 ชต. เพราะนมถั่วเหลืองใช้รสวานิลลา เดี๋ยวหวานเกินอ่ะ
แล้วก็ใส่ชอกชิพไปด้วย อันนี้ช่วยได้เยอะนะ รสมันดีขึ้น อ้อ แล้วก็เพิ่มวานิลลา 1 ชช. ด้วยค่ะ
ถ้ามีถั่วๆ ใส่ก็คงดียิ่ง อิอิ เนื้อเค้กออกมาเหมือนเค้กปอนด์อ่ะค่ะ ไม่น่าเชื่อ
เพราะมันใช้เวลาในการทำน้อยมากๆ อ่ะ แต่อบนี่ดูหลายรอบหน่อย อบต่อไปสองรอบ
อบไป 25 นาที (พิมพ์โลฟเล็ก 7"x3") เค้กกินตอนอบเสร็จอร่อยกว่าแช่เย็นแล้วพักแล้วกินค่ะ
 อารมณ์เป็นเค้กแบบกินกะนมดีเหมือนกันนะ ^^







สูตรตามนี้นะคะ

Great Vegan Cake
ดัดแปลงจากภาพสูตรด้านบน (จำแหล่งที่มาไม่ได้ ขออภัยเจ้าของผู้เผยแพร่จริงๆ ค่ะ T_T)

แป้ง 1 1/2 ถ้วย*** 
น้ำมัน พืช 1/2 ถ้วย
น้ำตาลทรายละเอียด 3/4 ถ้วย
นมถั่วเหลืองรสวา นิลลา 1/2 ถ้วย
เกลือ 1 ปลายหยิบมือ
ช็อกโกแลตชิพ 1/4 ถ้วย


***(บีมใช้แป้งไรย์อ่ะค่ะแล้วก็เป็น organic self-rising--ไม่รู้ดีไม่ดีนะคะ แต่ดูจะเป็นอย่างเดียวที่หาได้แล้วน่าจะเอามาทำเค้กแบบนี้ได้น่ะค่ะ ไงลองเปลี่ยนตามความเหมาะสมคนกินเนอะ)

วิธีทำ



- วอร์มเตาที่ 190C ทาพิมพ์ด้วยน้ำมันบางๆ และรองกระดาษไข
- ผสมส่วนผสมแห้งทั้งหมดด้วยกันในชามผสมด้วยตะกร้อมือ

- เทส่วนผสมเปียกเข้าด้วยกันแล้วเทลงไปในส่วนผสมแห้ง คนจนเข้ากันดี

- เทใส่พิมพ์ที่เตรียมไว้ อบประมาณ 25 นาทีหรือจนกว่าจะสุก



 ทำเอง กินเอง อร่อยเอง ^^ พบกันโจทย์ต่อไปค่ะ

















Wednesday 22 September 2010

Chicken Farm Baker's Project # 26 : Orange Jam and Orange Jam Souffle'...spoil yourself with mouthwatering jam.


 




เมื่อวานพิมพ์รอโพสท์ จะเสร็จอยู่แล้วเชียว เผลอไปกดอาไรก็ไม่รู้
หน้าที่พิมพ์ไว้หายไปเลย...งอน..กลับบ้านนอนดีฝ่า

กลับมาใหม่ พิมพ์ก็ได้ไม่เหมือนเดิม ^^

การบ้านเดือนนี้ ใจตรงกันกับน้องก้อย ฟันคุดน้อยซี่ที่ 7 เลยค่ะ
ได้แยมส้มเหมือนกัน แต่ส้มมันก็มีหลายพันธ์ุกันอยู่
ของบีมมาตกฟากที่ส้มนาเวลค่ะ เป็นส้มเปลือกนุ่มหนาๆ หน่อย
ลูกใหญ่  รสคล้ายๆ ส้มเช้งบ้านเรา แต่หวานน้อยกว่า คั้นน้ำก็อร่อยน้อยกว่า
แต่ความที่เปลือกเค้าหนาออกนุ่มๆ คล้ายๆ ส้มแมนดาริน พอเอามาทำแยม
ก็กินเปลือกส้มอร่อยไปอีกแบบค่ะ

ตอนที่ได้เห็นโจทย์โฮสท์พี่อุ้ม อากิจัง ก็กลัวๆ เหมือนกัน ตูจะทำได้ป่าวหวาาา
พร้อมๆ กะแอบนึกว่าจะใช้ผลไม้อะไรดีหวาาา ไทยหรือเทศ สดหรือแช่
ก็ได้มาเป็นส้ม มะเฟือง แล้วก็มะนาวน้ำผึ้ง ผลโหวตมีแต่เลือกส้ม
คาดว่าคนโหวตคงกลัวได้กินของแปลก ฮ่าๆๆ เลยขอแบบธรรมดากันหมด
ส่วนมะนาวน้ำผึ้งนี่สุดท้ายก็ทำด้วยนะคะ แต่ออกมาแล้วรสขมเยอะเชียว
ไม่รู้ว่านี่เป็นเหตุผลที่ไม่ค่อยเห็นแยมมะนาวรึเปล่า


แต่โจทย์จากพี่อุ้มยังไม่จบแค่แยมค่ะ ต้องมีการนำไปใช้ด้วย โฮะๆๆ
เลยมาลงตัวท่ีซูเฟล่ส้มค่ะ  สูตรประยุกต์จาก epicurous ที่เก็บไว้ในโทรศัพท์
ก็เลยทุลักทุเลประมาณนึง เพราะกล้องก็จากโทรศํพท์ บางขั้นตอนก็เลย
 ลืมถ่ายซะงั้นค่ะ ขออภัยจริง จริ๊งง ค่ะ
 ซูเฟล่สูตรนี้ก้นถ้วยมีเนื้อส้มกับแยมส้มรออยู่ ตามด้วยซูเฟล่แบทเทอร์
อบๆๆ แล้วก็เอาออกมาจกตอนฝนพรำๆ
 ....ปรากฏว่าลิ้นพองค่ะ ลืมเป่า ออกมาจากเตาก็โซ้ยเลย ^^

ตัวแยมสูตรมาจาก A Table for Two  ค่ะ เป็นอีกบ้านนึง ที่ถ่ายรูปสวยมากๆ แล้วก็ขั้นตอนละเอียดดีนะคะ ขอขอบคุณเค้าเป็นภาษาไทยด้วยค่ะ
อ้อ แล้วเค้าก็อธิบานถึงเรื่องเจ้าเพคตินไว้ด้วย ว่ามันก็มาจาก
ตามเม็ดและใยส้มนี่แหล่ะค่ะ ตอนต้มควรจะใส่ลงไปทั้งหมด
แต่แยกใส่ผ้าขาวบาง มัดไว้ เวลาแยกออกก็จะง่าย เพราะมันกินไม่อร่อย
แต่เจ้าเพคตินที่เราต้องการมันอยู่ในนี้เอง ไม่ต้องใส่แบบสกัดเพิ่มก็ได้
ผลไม้แบบพวก citrus ก็จะมี pectin เยอะอยู่ ทำแยมง่ายเลยค่ะ
อ้อที่สอง ก็คือข้อแตกต่างระหว่างแยมกะมาร์มาเลด..หรือหลาด
 ก็อยู่ที่ผลไม้ที่นำมาทำนี่เองค่ะ คือจริงๆ แล้วแยมกะมาร์มาเลดก็อันเดียวกัน
ถ้าผลไม้ที่ใช้เป็นตระกูล citrus ก็เรียก marmalade แต่ผลไม้ชนิดอื่นๆ
อีกหลากหลายเรียก jam แต่มันก็มาจากเวบนะคะ เป็นความเป็นข้อมูลจากบุคคลอ่ะค่ะ
เล่าสู่กันฟังเฉยๆ ^^

ขอบคุณพี่อุ้มที่ทำให้บีมได้ลองอะไรใหม่ๆนะคะ
รู้สึกเลยว่าอิจฉาคนที่ในบ้านมีต้นนู้น นั้น นี้ให้เก็บมาทำอะไรๆ ได้จริงๆ
บ้านบีมไม่มีที่ปลูกอ่ะค่ะ ถึงปลูกก็น่าจะตายเพราะขาดน้ำ ฮิ้ววววว







Orange Jam or Marmalade
adapted from  tablefortwo>>mandarin marmalade
(ทำได้ 1 โหล ขนาดกลางค่ะ)

ส่วนผสม
ส้มนาเวล 2 ลูก (ประมาณเกือบ 1 กิโล)
น้ำตาล 500 กรัม
น้ำเปล่า 3 ถ้วยตวง
น้ำมะนาว 1 ลูกใหญ่

เตรียมผ้าขาวบางสะอาดไว้ 1 ผืน ไม่ต้องผืนใหญ่มาก

 วิธีทำ







ส้ม 1 ลูกตรึ่ง ปอกเปลือกส้มเบาๆ ระวังช้ำ และพยายามปอกให้เป็นชิ้นใหญ่ชิ้นเดียว
แล้วหั่นซอยเป็นเส้นๆ พักไว้ อีกครึ่งลูกคั้นน้ำ

ปอกใยและเปลือกชั้นในออกให้หมด แยกส่วน พักไว้

หั่นส้มตามขวาง แยกเม็ดส้มออกมาให้หมด แล้วนำไปรวมกับใยที่แยกไว้
ใส่ห่อผ้าขาวบาง มัดปมไว้

นำส่วนผสมที่เตรียมไว้ทั้งหมดใส่หม้อขนาดกลาง ใส่น้ำและน้ำตาล ตั้งไฟกลาง
จนเดือด หรี่ไฟลง ตั้งไฟต่อไปอีกประมาณ 1 ชม. หรือจนส่วนผสมที่ได้ ลดลงเหลือครึ่งหนึ่ง
คอยคนอยู่เรื่อยๆ นะคะ แล้วก็ช้อนฟองออกบ้าง

วิธีทดสอบว่าเป็นJelly รึยัง?

นำช้อนเล็กแช่ช่องแข็งสักพัก ตักแยมที่ได้ใส่ลงไปในช้อนแล้วลองใช้มีดกรีดลงไป
ที่แยม ทดสอบดู ถ้ายังไม่เป็น jelly ก็ต้มต่อไปอีก 10 นาที แล้วทดสอบใหม่

เมื่อแยมได้ที่แล้วก็เทใส่โหลที่ผ่านการฆ่าเชื้อแล้ว ด้วยวิธีต้มหรือเข้าอบก็ได้
พักแยมไว้แบบเปิดฝาประมาณ 10 นาทีค่อยปิด หรือจนกว่าโหลจะเย็นพอจับได้

ส่วนวิธีฆ่าเชื้อโรคโหลบีมใช้วิธีล้างด้วยน้ำอุ่น เช็ดให้แห้งแล้วก็เอาเข้าอบที่
อุณหภูมิ 160 องศาซี 20 นาทีนะคะ จากนั้นเอาออกมาผึ่ง รอเวลาบรรจุแยม ^^


Orange Jam Souffle'
adapted from epicurous
(3 ramekins)

 ส่วนผสม

  • แยมส้ม 3 ชช.
  • เนื้อส้ม 3 ชต.
  • แป้งข้าวโพด 1 ชช.
  • 1 ชช. ผิวมะนาวขูด
  • น้ำตาล (1)  1/4 ถ้วย
  • น้ำตาล (2)  1/8 ถ้วย
  • นมสด 1/2 ถ้วย
  • ไข่ไก่ 2 ฟอง แยกไข่แดงและไข่ขาว
  • เนยสด 1 ชต.
  • น้ำส้มคั้น 3 ชต.
  • น้ำตาลไอซิ่ง สำหรับโรยหน้า

วิธีทำ

 วอร์มเตาที่ 200 องศาซี 
ทาเนยที่ถ้วยซูเฟล่ 3 ถ้วย โรยน้ำตาลด้านข้างและเคาะส่วนเกินออก
แบ่งส้มและแยมเป็นสามส่วนเท่าๆ กัน แบ่งแต่ละส่วนลงในถ้วยที่เตรียมไว้
ผสมผิวมะนาวกับน้ำตาล (1) ในกระทะก้นลึก เติมแป้งข้าวโพด นม ตามด้วยไข่แดง
เติมเนย แล้วนำไปตั้งไฟ ค่อยๆ คนไปด้วย จนได้ส่วนผสมข้นขึ้น ประมาณ 1 นาที
ยกลงและย้ายไปใส่ชามผสม ใส่น้ำส้ม ชิมรส ปรุงรสด้วยเกลือ

ในโถตี ตีไข่ขาวจนเป็นฟอง ค่อยๆ เติมน้ำตาล (2) ลงไป
ตีต่อจนตั้งยอดแข็ง

แบ่งไข่ขาวลงไปในส่วนผสมน้ำส้ม แล้วค่อยๆ ตะล่อมให้เข้ากัน ประมาณ 3 ครั้ง

ตักส่วนผสมที่ได้ใส่ถ้วยที่เตรียมไว้ อบประมาณ 12-14 นาที 

โรยไอซิ่งก่อนเสริ์ฟอุ่นๆ



...ไม่มีรูปปิดท้ายนะคะ สวัสดีค่ะ ชอบคุณนะคะ....

Monday 31 August 2009

Capri Cake

 :: Capri  Chocolate Cake ::

เข้าใจถูกแล้วค่ะ ^^ เจ้าเค้กนี้เค้กชอคโกแลตที่ตั้งชื่อตามเกาะคาปรี ณ อิตาลี ค่ะ
แค่ฟังชื่อก็น่ากินแล้วนะสำหรับบีม อิอิ แบบว่า dream destination เลยหล่ะค่ะ
ตัวเค้กเองก็ทำง่าย ไม่ซับซ้อน น่าจะถูกใจคอช็อคโกแลตทั้งหลาย ^o^
สูตรนี้ไปเจอในเวบอีกแล้วค่ะ จากคุณ  Anita : Dessert First   ผู้โด่งดัง
ลองเข้าไปอ่านดูก็ได้นะคะ เค้าเล่าถึงหนังสือเรื่องที่เค้าอ่าน คือ
 
ซึ่งเป็นเรื่องของเชพ ชื่อ David Shalleck อีกที...เค้าอ่านแล้วประทับใจ
แล้วก็เลยลองเจ้าคาปรีเค้กนี่ เราเข้าไปอ่านก็ติดใจด้วยคน
ก็เลยลองดูนี่แหล่ะค่ะ มันเป็นเค้กเนื้อคล้ายๆ  Flourless Chocolate Cake
คล้ายตรงที่แป้งน้อยมั้งคะ มีไข่ขาวมาแทน แช่เย็นแล้วกรอบนิดๆ
แต่บีมอ่ะเสิร์ฟตอนมันอุ่นๆ มีเนื้อเค้กเยิ้มๆ นิด อร่อยกว่าตอนที่แช่เย็นแล้วค่ะ
ในสูตรเค้าใส่ให้เลือก Semisweet Choc หรือ Unsweetened
พอดีของที่มีในตู้เย็นมันดันเป็น Dark Choc. White Choc แล้วก็
Bittersweet อิอิ ก็เลยผสมกันหมดในสัดส่วนต่างกันนิดหน่อยค่ะ
ของอย่างงี้คงแล้วแต่รสชอคโกแลตตามชอบของแต่ละคนด้วยเนอะ...


 C a p r i   C a k e
(ดัดแปลงจาก Anita Chou: Dessert First)
serves about 12



























ส่วนผสม:
เนยจืด 12 ชต. (172 g)  ทิ้งไว้ที่อุณหภูมิห้อง
 ช็อคโกแลต  8 oz (226 g)
อัลมอนด์อบแล้วป่น 3 oz (88 g)
แป้งเค้ก 2 ชต.(16 g)
ไข่ไก่ 6 ฟองใหญ่  - แยกไข่ขาว ไข่แดง  - อุณหภูมิห้อง
 น้ำตาลทราย  7 1/2 oz (200 g)
น้ำตาลไอซิ่งและผงโกโก้ สำหรับโรยหน้าตกแต่ง




























วิธีทำ:
 
วอร์มเตาที่ 150 องศาซี เตรียมพิมพ์เค้ก 8"  รองกระดาษไขที่ก้นและด้านข้าง ไม่ต้องทาเนย

ละลายช็อคโกแลตกับเนยด้วยวิธี  bain-marie เมื่อละลายเข้ากันดีแล้วพักไว้ให้เย็น

แป้งกับอัลมอนด์บด ใช้ตะกร้อมือคนให้เข้ากัน

ในชามผสมอีกใบตีเนยและน้ำตาลจนสีอ่อนและฟูขึ้น
แล้วค่อยๆ เทส่วนผสมช็อคโกแลตลงไป คนจนเข้ากันดี

จากนั้นแบ่งส่วนผสมแป้งและถั่วลงไป ซัก 3 รอบ คนแค่พอเข้ากัน































ใช้เครื่องตีไข่ขาวจนตั้งยอดอ่อนแล้วแบ่งเศษหนึ่งส่วนสามส่วน
ผสมกับส่วนผสมไข่แดง+น้ำตาล เมื่อเข้ากันดีก็ใส่ไข่ขาวที่เหลือจนหมด
คนให้เข้ากันดีเบาๆ

เทส่วนผสมทั้งหมดลงพิมพ์ที่เตรียมไว้ อบประมาณ 40-45 นาที

เมื่อเค้กสุกให้พักไว้บนตะแกรง โรยหน้าด้วยไอซิ่งและผงโกโก้ แล้วเสิร์ฟได้^^





























ขอบคุณคร่าา

Chicken Farm Special Project : Ultimate Roll : Colour, Flavour and Glitter ; Almond Meringe Roulade

Chicken Farm Special Project : Ultimate Roll : Colour, Flavour
and Glitter ; Almond Meringe  Roulade
 
 
 :: Almond Meringue Roulade & Blueberry Filling ::



สวัสดีจ้าาา
ช่วงนี้ผีขยันเข้าสิงชาวเรากันถ้วนหน้า อิอิ
มีโปรเจคพิเศษให้ลองกันอีกแล้ว คราวนี้เป็นเรื่องของ "โรล"
บางที่ บางทีเค้าก็เรียก "Roulade" ที่แปลแล้วก็ได้ความหมายอย่างเดียวกัน
คืิอ "to  roll" จะม้วนของคาวหรือของหวานก็ตามถนัดกันนะคะ
ตามโจทย์จากน้องบัว ตัวเล็กจอมพลังมี 2 ข้อให้เลือกกัน
ข้อแรก  เหมาะสำหรับคนที่ชอบทำขนมธรรมดาให้สวยงาม 
ข้อสอง  ทำโรลหน้าตาธรรมดาแต่วัตถุดิบหรือรสชาติขอให้แปลกใหม่น่าสนใจ
เอาแบบไม่น่าเชื่อว่าจะเอามาทำเป็นโรลได้น่ากินขนาดนี้
แต่น้องบัวก็แอบขอว่าอย่าแปลกถึงขนาดน่ากังขาว่าจะกินได้รึเปล่า ฮ่าๆ
วันนี้บีมก็ขอเสนอเป็นเจ้านี่แหล่ะค่ะ
Almond Meringue Roulade & Blueberry Filling
สูตรต้นตำรับมาจากเวบนี้ค่ะ  Pittsburgh Needs Eated
ส่วนตัวแค่ไม่่ค่อยได้เห็นเมอร์แรงค์มาเป็นแบบม้วนๆ อ่ะค่ะ
แต่ถามว่าแปลกมั้ยมันก็คงไม่แปลกหรอกเนอะ ^^
 ถ้าไม่ชอบหวานนักก็ลดน้ำตาลจากสูตรลงนิดหน่อยก็ได้ค่ะ
บีมลองดูก็ไม่มีปัญหาไรนะ ^^ คนชอบเมอร์แรงค์แบบนุ่มๆ (เหมือนบีม...)
เหมือนพวกหน้าพายน่าจะชอบจ้ะ หอมอัลมอนด์ เคี้ยวกรุบๆ ดีนักแล
ส่วนไส้คงต้องเป็นไส้ที่มีรสเปรี้ยวนิดๆ ก็จะดีค่ะ ไม่งั้นมันก็หวานนักแลเหมือนกัน

 ดูรูปกันอีกทีนะ




























ส่วนผสม:
(บางอย่างก็เอาตามของที่มีนะคะ ไม่ตามต้นตำรับเป๊ะๆ)
เนยขาวสำหรับทาพิมพ์
ไข่ขาว 3 ฟอง
น้ำตาลทรายขาว 1/2 ถ้วย
อัลมอนด์ สไลด์ 3 ช้อนโต๊ะ
วิปปิ้งครีม 1 ถ้วยบลูเบอร์รี่ฟิลลิ่ง

วิธีทำ:

วอร์มเตาที่ 200 องศาซี ทาเนยขาวบางๆ ที่ีพิมพ์ 9"X11"
ปูกระดาษไขแล้วทาเนยขาวบางๆ อีกครั้ง

ตีไข่ขาวด้วยสปีดสูงสุดจนตั้งยอดอ่อนแล้วทยอยใส่น้ำตาล
ทีละ ช้อนจนหมด ตีเรื่อยๆ จนตั้งยอด และส่วนผสมเงา
เทใส่พิมพ์และปาดหน้าให้เป็นลายนิดหน่อยและโรยอัลมอนด์ให้ทั่ว
นำไปอบโดยแรคอยู่เกือบด้านบนของเตา อบ 8 นาที
แล้วลดอุณหภูมิลงเหลือ 160 องศาซี แล้วอบต่อจนเริ่มเป็นสีทอง
ประมาณ 3 - 5 นาที แต่ระวังอย่าอบนานเกินไป
เพราะจะทำให้ยากต่อการม้วน

เอาออกมาวางที่ตะแกรงให้ด้านที่เป็นหน้าอัลมอนด์อยู่ด้านล่าง
ค่อยๆ ลอกกระดาษไขออกแล้วทิ้งไว้ให้เย็นประมาณ 10-15 นาที










































ตีวิปครีมจนตั้งยอด แล้วปาดทับบนเมอร์แรงค์
แล้วทำซ้ำเป็นบลูเบอร์รี่ฟิลลิ่ง อาจเว้นขอบเล็กน้อย
เผื่อเวลาม้นไส้จะได้ไม่ทะลัก (เหมือนบีม -_-")
ค่อยๆ ใช้กระดาษไขอีกแผ่นรองเค้กแล้วม้วนจนได้ที่
ใช้กระดาษไขห่อให้คงรูปไว้ก่อนแล้วนำไปแช่เย็น
จากนั้นก็ได้เวลาพาลูกไปเดินเล่นยามเย็น
แล้วก็กลับมาได้เวลาตัดเสิร์ฟ ^^
ก่อนเสิร์ฟ แต่งหน้าด้วยน้ำตาลไอซิ่งค่ะ






























ไปดูไปชมของเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ กันอีกดีกว่าจ้า งานนี้แขกรับเชิญเพียบ ^^ --->


บรั๊บบรายยยยก่อนน๊า ^^

Monday 24 August 2009

Chicken Farm Baker's Project #13



Chicken Farm Baker's Project #13 :

B r i g h t e n   u p   w i t h   P a v l o v a & P e a c h   I c e   C r e a m   P a r f a i t ! 




ไหนๆ ก็มีบ้านใหม่แล้ว  ขอมาเริ่มโพสต์ไม่ให้บ้านร้างแล้วกันนะคะ
ตามกระแสย้ายบ้านจากน้องแก้ม อิอิ
เริ่มโครงการลูกเจี๊ยบโจทย์ไอติมของน้องจิ๊บ จิบลิบุรี
ด้วยไอติมรสพีชหวานหอม หม่ำกับพาพโลว่าชิ้นพอดีคำ
แล้วตัดรสหวาน..น ด้วยบลูเบอร์รี่ให้เปรี้ยวนิดนิดส์
 จากนั้นก็ค่อยๆ ตักเข้าปากพอดีๆ คำ เลยค่ะ ^^






มาดูสูตรกันเลยดีกว่า

:::Peach Ice Cream:::
(ดัดแปลงสูตรจาก Donna Hay ค่ะ)

พีชสุก 4 ลูก
น้ำจากส้มเขียวหวาน 2 ลูก
ไข่แดง 3 ฟอง
นมสด 250 ml.
วิปครีม 100 ml.
น้ำตาลทราย 1 ถ้วย



วิธีทำ :

1.ปอกเปลือกพีชแล้วหั่นเป็นชิ้นย่อมๆ
แล้วปั่นรวมกับน้ำส้มคั้นแล้วพักไว้

2.เตรียมกระทะตั้งบนหม้อใส่น้ำ ไฟกลาง ใส่นมสดลงไป
ระหว่างนี้ก็ตีไข่แดงกับน้ำตาลหราย
จนเป็นสีอ่อน

3.เมื่อนมสดเริ่มเดือด ยกจากเตาแล้ว
เทนมสดเศษหนึ่งส่วนสามลงในส่วนผสมไข่แดง
คนจนเข้ากันดี แล้วเทส่วนผสมน้ีกลับไปในกระทะนมสด
แล้วนำไปตั้งไฟอีกครั้ง

4.คนจนส่วนผสมข้นขึ้น ประมาณเคลือบหลังช้อนไม้ได้...
ขั้นนี่บีมคนๆเหมือนมันจะนานกว่า
ที่สูตรเค้าบอกไว้นะคะ แต่ก็เป็นได้ว่าไปจากเตาบีม
มันอาจจะอ่อนกว่าก็ได้มั้ง..เนอะ
พอข้นได้ที่ก็ยกลงจากเตาแล้วพักให้เย็นในกะละมังน้ำแข็ง

5.ตีวิปครีมจนตั้งยอด รอส่วนผสมนมและไข่แดงเย็น
แล้วจึงตะล่อมให้เข้ากันกับวิปครีม
แล้วใส่พีชปั่นกับน้ำส้มเป็นอันสุดท้าย

6.แช่เย็นช่องธรรมดาข้ามคืน แล้วเอามาปั่นใน
เครื่องปั่นไอติม แล้วก็แช่เย็นโลด..ด

 ต่อด้วย Pavlova ค่ะ
::: Pavlova :::

ไข่ขาว 3 ฟอง
น้ำตาลทราย 3/4 ถ้วย
น้ำส้มสายชู 2 ช้อนชา
แป้งข้าวโพด 2 ช้อนโต๊ะ
เกลือป่นเล็กน้อย





วิธีทำ:

1.วอร์มเตาที่ 150 องศาซี ตั้งตะแกรงไว้ส่วนล่างของเตา
2.ตีไข่ขาวกับเกลือจนตั้งยอดอ่อนแล้วทยอยใส่น้ำตาล
ทีละ 1 ช้อนโต๊ะ จนหมด
และได้ส่วนผสมข้นและเงา

3.ใส่แป้งข้าวโพดและน้ำส้มสายชู ใช้พายยาง
ตะล่อมเบาๆ ให้เข้ากันดี

4.ใช้ช้อนตักลงบนถาดที่รองกระดาษไข แล้วใช้พายยางเล็กๆ
ค่อยๆ ตกแต่งให้ได้รูปทรงตามต้องการ

5.อบนาน 1 ชม. แล้วพักให้เย็นในเตาต่ออีก 1 ชม.

วิธีประกอบ:
บิ pavlova เป็นชิ้นเล็ก ตามด้วยไอติมพีช
และบลูเบอร์รี่ แล้วใช้เมอร์แรงค์ชิ้นเล็ก
บิดทับด้านบนสุด ถ้าใช้แก้วทรงสูงมากๆ ก็ทำซ้ำซ้อนเป็น
เลเยอร์ขึ้นมาอีกก็จะน่ากันขึ้นค่ะ

ขอให้ทุกคนสดชื่นกับอากาศรอบๆ ตัวนะคะ


ถ้ายังไม่อิ่ม ชาวฟาร์มมีของอร่อยๆ  อีกเพียบ ตามมาทางนี้เลยค่ะ ;-P

















บรั๊บบรายยยย ก่อนน๊ะ  ^^

Tuesday 11 August 2009

ลองโพสต์ดูหน่อย....